ในชีวิตคนเรา คงเคยได้ยินคำว่า โอกาส ผ่านหูกันมามากมายนับไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะ โอกาสดี โอกาสร้าย หรือ เสียโอกาส อะไรก็ตามที ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นประสบการณ์ชั้นครูทั้งสิ้น
คำว่าโอกาส นั้น มักมี คำว่า 'ตัดสินใจ' แฝงอยู่
การเลือกที่จะ 'ไม่ตัดสินใจ ก็คือ การตัดสินใจ' กับโอกาสนั้นๆ นั่นเอง
เพราะไม่ว่าจะตัดสินใจปัญหาขี้หมู ขี้หมา หรือใหญ่โตสักเพียงใด กับโอกาสทุกๆ อย่างที่ผ่านมา มันก็มีผลต่อชีวิตทั้งสิ้น มากบ้าง น้อยบ้าง
โอกาสที่ผ่านเข้ามาชีวิตคนเรานั้นมันเหมือนลูกเบสบอลที่ถูกขว้างมา กุคิดว่าไม่จำเป็นต้องตีทุกลูก ตีลูกที่คิดว่าตีได้ถนัดที่สุด แล้วก็หวดให้เต็มแรง...ก็พอ บางลูกก็มาเร็วจนไม่ทันตั้งตัว
แต่บางคน...ก็มัวแต่รอ...รอแล้วรอเล่า...เมื่อไหร่ลูกที่ดีที่สุดจะมาสักที... ลูกแล้วลูกเล่าค่อยๆผ่านไป...
แต่ไม่คิดที่จะตีเลยสักที... แล้วมาคิดย้อนกลับไป ถ้ารูงี้...ตีไปก็คงจะดี... แปลกดีเหมือนกัน...
บางคนถาม... อ่าว...เห้ย แล้วไมไม่หวดมันทุกลูกเลยหล่ะวะ
ดูก่อน สหาย...
เนื่องจากเกมการตัดสินใจของมนุษย์นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เพราะใจเป็นใหญ่ การทำอะไรสิ่งหนึ่งต้องตัดสินใจก่อนเสมอไม่ว่าเอ็งจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามที
ทีนี้มันไม่ใช่มีแต่ว่าเมิงตัดสินใจกับโอกาส หรือเรื่องใดที่ผ่านๆ เข้ามา แล้วก็จบ แต่มันมีเรื่องจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้อง
แล้วกายของมนุษย์ที่ประกอบด้วยจิตใจนี่ถือว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เช่น ถ้าใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายมากเกินไป กายมันจะเริ่มแสดงอาการออกมา เริ่มมีอาการปวดบ้าง ล้าบ้าง หรืออาจค่อยๆ เสื่อมไปตามสภาพร่างกาย
สิ่งที่เค้าเรียกกันว่า 'มนุษย์' ไม่ได้ประกอบด้วย กายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เช่นการที่คนๆหนึ่ง รักคนหนึ่งมาก เมิงทุ่มเทเต็มที่เลย ให้ทุกอย่าง รัก เทคแคร์ ดูแล คิดว่าเป็นรักในอุดมคติ รักที่มีแต่การให้...
(* แต่โดยปกติแล้ว มนุษย์มักมีความพอใจในสิ่งที่เรียกว่าความ 'พอดี' อยู่ลึกๆ สิ่งใดที่เกินไปหรือน้อยไปย่อมก่อเกิดผลกระทบที่เป็นลบมากกว่าผลกระทบที่เป็นบวก )
แต่ผลที่ได้รับกลับมา หรือ reaction ที่เรียกว่าเส้นความคาดหวังสูงกว่าเส้นการรับรู้ในทางทฤษฎี หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า "ผิดหวัง" ยิ่งถ้าสองเส้นนี้มีระยะห่างมากเท่าใด ก็จะส่งผลแรงขึ้นเท่านั้น
จิตใจมันจะเริ่มส่ออาการมาให้เอ็งรู้ละ ว่ามัน ' ปวดใจ ' หรือ ทุกข์ใจ
มันอาจกำลังบอกว่าเริ่มเป็นการให้ค่าสิ่งๆ นั้นเกิน ' พอดี ' ไม่ก็ทุ่มมากเกินไปรึเปล่า?
ลองคิดดูถ้าเกิดเมิงหวดลูกทุกลูกต่อๆ กัน แรงที่เมิงจะหวดลูกต่อไปย่อมน้อยลง หลักสิบยังพอทน หลักร้อยในระยะเวลาต่อๆ กันหล่ะ?
เพราะฉะนั้นย่อมไม่มีแรงกายแรงใจที่จะหวด 'โอกาส' ที่ผ่านเข้ามานั้นได้อย่างเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
แต่... แต่ แต่
แต่ในทางกลับกัน ยิ่งใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งมากๆ อวัยวะส่วนนั้นหรือจิตใจกลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น... มหัศจรรย์มั้ยหล่ะ
ลองสังเกตุดู พวกที่ออกกำลังกาย ยิ่งใช้ร่างกายส่วนใดมาก ส่วนนั้นก็จะค่อยๆ แข็งแรงขึ้น มีกล้ามเป็นมัดๆ
หรือใช้สมองคิดสิ่งใดมากๆ สมองเมื่อได้รับการฝึกฝนในการคิดก็ย่อมที่จะเป็นคนคิดได้เร็วในศาสตร์ที่ตนถนัด
จิตใจที่ได้เรียนรู้ว่าสุขก็ชั่วคราว ทุกข์ก็ชั่วคราวบ่อยๆ ว่าทุกอย่างเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ก็ย่อมปรับตัวและเข้าใจถึงธรรมชาติที่มีได้เร็วกว่าปกติ
แล้วโลกหรือโรงละครใบใหญ่ใบนี้ ก็ไม่เคยให้เมิงได้หวดโดนได้ทุกลูก แล้วสามารถตีโฮมรันได้ทุกลูกด้วยเช่นกัน
มันพยายามจะสอนว่า บางครั้งเมิงก็หวดพลาด บางครั้งก็ตีโดน บางทีเมิงก็ตีโฮมรัน
เพียงแค่สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่พลาดมาทำให้ฉลาดยิ่งกว่าเดิม และเรียนรู้ทุกข์เพื่อที่จะได้รู้ว่าสุขมีค่าแค่ไหน และในทางกลับกัน ก็เรียนรู้ที่จะเสพเมื่อช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านเข้ามา
และไม่ว่าจะสุข หรือทุกข์กับโอกาส กับการตัดสินใจที่ผ่านๆ มากเพียงใด ให้จงระลึกไว้เสมอว่า
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น